Content

ทำความสะอาดรองเท้าสีขาว และกำจัดคราบเหลือง

สำหรับคราบสกปรกที่ซักไม่ออกจริงๆ ลองนำสูตรนี้ไปใช้ดูค่ะ เริ่มจากผสมสารฟอกขาว 1 ส่วน กับน้ำเปล่าอีก 5 ส่วน เพื่อให้สารฟอกขาวเจือจาง ใช้ผ้าขนหนูชุบแล้วนำไปซักรองเท้าผ้าใบ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง และนำกระดาษทิชชู่ห่อไว้เพื่อให้คราบไปติดที่กระดาษแทน และไปตากไว้ในที่ร่ม แค่นี้ก็ได้รองเท้าผ้าใบสีขาวคู่เก่งกลับมาสดใสเหมือนเดิมค่ะ


ม่านโถงบันได หลายๆบ้านอาจจะมีปัญหาว่่าจะทำความสะอาดยังไง MEcleanD เราเป็นผู้เชียวชาญในการซักผ้าม่านทุกรูปแบบ ลองดูวิธีการติดตั้งม่านโถงบันไดจากในคลิปแล้วคุณจะรู้ว่าเคล็ดลับ.....


รอยด่างเกิดจากอะไร !!!

หลายๆท่านเคยสงสัยกันมั้ยคะ ว่ารอยด่างบนเสื้อผ้า ผ้าขนหนู ที่เกิดหลังจากการซักมันเกิดจากอะไรกันแน่ ทำให้เสื้อตัวเก่งของเราเสียหาย

มันเกิดจากเจ้ายารักษาสิวที่ชื่อ “เบนแซค” (benzac) หรือ Panoxy ซึ่งสรรพคุณของเค้าที่เด่นชัดก็คือ สามารถลดการอุดตันของหัวสิว และรักษาอาการของสิวได้ด้วย

เจ้ายารักษาสิวตัวนี้มีส่วนประกอบของ “เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์” (Benzoyl peroxide) หรือที่เราเรียกกันว่า BP ซึ่งอาจจะมีความเข้มข้นที่ 2.5% หรือ 5%

นอกจากจะมีคุณสมบัติรักษาสิวแล้ว ยังเป็นสารออกซิไดซ์ที่แรงจนฟอกสีย้อมผ้าได้อีกด้วย จึงทำให้เสื้อผ้าหรือผ้าขนหนูเราเป็นด่างได้นะคะ

ดังนั้นเวลาทาเจ้า BP เสร็จแล้วก็ควรล้างมือ และอย่าเอาไปเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าเรา หรือว่าควรจะถอดเสื้อผ้าก่อนทานะคะ เพราะถ้าเลอะเสื้อแล้วจะซักไม่ออกนะคะ


ขอขอบคุณรูปประกอบบทความจากลิงก์นี้ด้วยนะคะ

https://www.huffingtonpost.com/…/bleach-spots-on-towels_us_…

<a href='https://th.pngtree.com/so/กลอกตา'>กลอกตา png จาก th.pngtree.com</a>


ไรฝุ่น (Dust Mites) หนึ่งในสาเหตุของโรคภูมิแพ้และตัวกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคหืดตามมา เป็นแมลงในตระกูลเดียวกับเห็บและแมงมุม มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า อาศัยอยู่ตามบ้านเรือนโดยกินผิวหนังของมนุษย์ที่ถูกผลัดออกมาเป็นอาหาร ไรฝุ่นนี้อยู่รอดได้ในทุกสภาพอากาศ แต่จะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมอุ่นชื้น หรือที่อุณหภูมิประมาณ 18.5-29 องศาเซลเซียสและมีความชื้นสัมพัทธ์มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์

อาการใดบ่งบอกว่าแพ้ไรฝุ่น ?

อาการแพ้จากการสัมผัสไรฝุ่นมีตั้งแต่ระดับอ่อนไปจนถึงรุนแรง หากเป็นการแพ้ที่เกิดจากการอักเสบของทางเดินจมูกจะแสดงอาการในลักษณะต่อไปนี้

  • จาม

  • น้ำมูกไหล คัดจมูก หรือคันจมูก

  • มีเสมหะ ไอ ระคายเคืองในลำคอ

  • คันตา น้ำตาไหล หรือตาแดง

  • คันที่ผิวหนัง

  • ใต้ดวงตาบวมช้ำ

  • อาการในเด็กอาจทำให้เจ้าตัวถูจมูกบ่อย ๆ เนื่องจากเกิดความระคายเคือง

อาการแพ้ไรฝุ่นยังอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการของโรคหอบหืดตามมา ดังนี้

  • หอบหืด ไอ หายใจหอบเหนื่อย

  • หายใจลำบาก

  • เจ็บหรือแน่นหน้าอก

  • หายใจเสียงดังวี้ด

  • อาการจะยิ่งแย่ลงเมื่อเผชิญกับฝุ่นควัน สารเคมีก่อความระคายเคือง ควันบุหรี่ หรือเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ

แพ้ไรฝุ่นเกิดจากอะไร ?

ไรฝุ่นอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการแพ้ตามมาเมื่อมีการสัมผัสหรือหายใจเอาของเสียที่ถูกขับออกมาจากตัวไรฝุ่นเข้าไป เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารแปลกปลอมใด ๆ ที่ผ่านเข้าไปด้วยการผลิตสารภูมิต้านทาน (Antibody) โดยเฉพาะขึ้นมาและจดจำว่าสารดังกล่าวเป็นสารก่อภูมิแพ้ และเมื่อเผชิญกับสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ ในครั้งต่อไปก็จะปล่อยสารฮีสทามีนที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ต่าง ๆ ตามมา

อาการแพ้ไรฝุ่นแตกต่างจากอาการแพ้ที่เกิดจากมลพิษตรงที่อาจเกิดอาการต่อเนื่องทั้งปีจนกลายเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ทั้งนี้ก็เพราะของเสียที่ออกมาจากตัวไรฝุ่นที่แห้งแล้วอาจยังกระจายอยู่รอบ ๆ ตัวในอากาศตลอดเวลา เพียงมีการใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดบ้าน เดินบนพรม ขยับตัวบนเตียงนอน สะบัดผ้าปูที่นอน หรือแม้แต่ขณะนั่งบนเก้าอี้ ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นมาได้อย่างฉับพลัน และหากหายใจเอาของเสียจากไรฝุ่นเข้าไปเป็นเวลานาน ๆ ก็อาจทำให้อาการภูมิแพ้ยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ เกิดการอักเสบเรื้อรังจนกลายเป็นโรคหืดได้

วิธีกำจัดไรฝุ่น ป้องกันภูมิแพ้

ไรฝุ่นนั้นยากที่จะกำจัดให้หมดไปจากบ้าน แม้ว่าจะทำความสะอาดบ้านบ่อยครั้งก็ตาม เพราะพวกมันต้องการแค่สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ที่นอน พรม ผ้าม่าน หรือเครื่องเรือนต่าง ๆ ที่มีความชื้นมากพอ ถึงอย่างนั้นการลดจำนวนไรฝุ่นในบ้านลงก็ช่วยลดอาการภูมิแพ้ให้น้อยลงได้ โดยวิธีต่อไปนี้จะช่วยลดจำนวนของไรฝุ่นในบ้านลงได้อย่างมาก

  • ใช้ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนกันไรฝุ่น ซึ่งเป็นผ้าที่ทออย่างแน่นหนา ซึ่งป้องกันไรฝุ่นเข้ามาอยู่อาศัย รวมทั้งยังกันไรฝุ่นที่มีอยู่ตามที่นอนอยู่แล้วไม่ให้ออกมา

  • ทำความสะอาดเครื่องนอนเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซักผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หมอน และผ้าที่ใช้คุมเตียงทั้งหมดด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส เพื่อกำจัดไรฝุ่นและสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ออกไป แต่หากไม่สามารถซักด้วยน้ำร้อนได้ก็ให้ใส่ลงในเครื่องปั่นแห้งอย่างน้อย 15 นาทีที่อุณหภูมิมากกว่า 60 องศาเซลเซียสเช่นกัน หรือจะใช้วิธีแช่แข็งด้วยความเย็นเป็นเวลา 24 ชั่วโมงก็ฆ่าไรฝุ่นได้ แต่จะไม่อาจช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ ต้องใช้การซักล้างเท่านั้น ทั้งหมดนี้ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

  • ใช้เครื่องนอนที่ทำจากใยสังเคราะห์ เช่น ผ้าฝ้าย เพราะซักทำความสะอาดด้วยน้ำอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสได้บ่อยครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าห่มหรือผ้าปูที่นอนที่จะมีไรผุ่นเกาะง่ายและยากต่อการทำความสะอาด เช่น ผ้านวม ผ้าที่ทำจากขนสัตว์

  • นำเครื่องนอนต่าง ๆ ออกไปผึ่งแดดอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อลดความชื้นของเตียงและขับไล่ไรฝุ่น

  • เลือกซื้อตุ๊กตาแต่เฉพาะที่ซักทำความสะอาดได้ ควรซักบ่อย ๆ และไม่ควรวางไว้บนเตียงนอน

  • เคลื่อนย้ายสิ่งของซึ่งอาจเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาไรฝุ่น โดยเฉพาะพรมต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งอาศัยแสนสบายของไรฝุ่น ยิ่งหากพรมนั้นอยู่บนพื้นปูนคอนกรีตก็จะยิ่งเกิดความชื้นได้ง่าย ถ้าเป็นไปได้ควรเปลี่ยนพื้นห้องนอนเป็นกระเบื้อง ไม้ เสื่อน้ำมัน หรือพลาสติกแทนการใช้พรม หรือเปลี่ยนเครื่องเรือนต่าง ๆ ที่เป็นแหล่งกำเนิดไรฝุ่นออก

  • การทำความสะอาดพื้นด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำถูพื้นจะช่วยลดจำนวนไรฝุ่นได้มาก ไม่ควรทำความสะอาดโดยการกวาดอย่างเดียวหรือใช้ผ้าแห้งเพราะอาจทำให้ไรฝุ่นฟุ้งขึ้นมาได้

  • ทำความสะอาดพรมและเครื่องเรือนที่บุนวมด้วยการดูดฝุ่นเป็นประจำ ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแผ่นกรอง 2 ชั้นหรือชนิดที่กรองอนุภาคต่าง ๆ แบบมีประสิทธิภาพสูง (High-Efficiency Particulate Air: HEPA Filter) จำพวกฝุ่นผงต่าง ๆ ระหว่างดูดฝุ่นควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน แต่หากอาการภูมิแพ้รุนแรงก็ไม่ควรทำเอง และหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณนั้นขณะที่ดูดฝุ่นจนกระทั่งหลังจากดูดฝุ่นไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม การดูดฝุ่นธรรมดานั้นไม่ได้ช่วยกำจัดไรฝุ่นและสารจากไรฝุ่นที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ได้มากนัก

  • จัดระเบียบบ้านให้เรียบร้อย เพราะข้าวของสิ่งต่าง ๆ ที่มีฝุ่นเกาะย่อมเป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่น จึงควรย้ายของเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหลาย ของประดับตกแต่งบนโต๊ะ และหนังสือ ออกจากห้องนอน และควรทำความสะอาดเป็นประจำ เนื่องจากอาจเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่นที่สูดดมเข้าไปทุกวันขณะนอนหลับ

  • พิจารณาติดตั้งแผ่นกรองคุณภาพสูงในเครื่องปรับอากาศ โดยเลือกที่ใช้มาตรฐาน MERV ระดับ 11-12 เปิดเครื่องปรับอากาศในโหมดพัดลมเพื่อกรองอากาศทั่วบ้าน และควรต้องเปลี่ยนแผ่นกรองเป็นประจำทุก ๆ 3 เดือน

  • ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ผ้าม่านชนิดม้วนและหมั่นปัดฝุ่นทำความสะอาด

  • ใช้พรมชนิดที่ซักทำความสะอาดได้เท่านั้


การซักเสื้อผ้าโดยเครื่องซักสามารถกำจัดเชื้อโควิด 19 ได้หรือไม่ ?

หากเสื้อผ้าของคุณสกปรกเล็กน้อยหรือไม่ได้ผ่านการไปในพื้นที่เสี่ยงติดโรคโควิด 19 การเลือกซักผ่านเครื่องซักผ้าไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักฝาหน้า หรือ เครื่องซักฝาบน โดยเลือกโปรแกรมซักทั่วไปและผงซักฟอกทำความสะอาด ก็เพียงพอต่อการกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคแล้วครับ

ทั้งนี้ NHS หรือระบบบริการสุขภาพแห่งชาติในประเทศอังกฤษ ยังได้บอกอีกด้วยว่าการซักผ้าโดยเครื่องด้วยโปรแกรมปกตินั้น สามารถลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อได้

ในขณะเดียวกันคนที่เคยไปในพื้นที่เสี่ยงหรืออาจมีการสัมผัสกับเชื้อมาก่อน ก็อาจจะจำเป็นต้องตั้งโปรแกรมเครื่องซักผ้าให้ทำความร้อนมากกว่าปกติ เพื่อทำการฆ่าเชื้อและลดความเสี่ยงในการติดเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้

ควรซักผ้าอย่างไรในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19

1. ตั้งโปรแกรมเครื่องซักให้ซักด้วยอุณหภูมิสูง

หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าการซักผ้าด้วยน้ำเย็นเป็นผลดีต่อเนื้อผ้าใช่ไหมครับ ? ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ด้วยในสถานการณ์โรคระบาดผมแนะนำให้คุณซักด้วยอุณหภูมิที่มีความร้อน เพราะมันสามารถช่วยกำจัดเชื้อโรคโควิด 19 ได้

2. ควรซักอุณหภูมิตั้งแต่ 60 องศาหรือมากกว่านั้น

เสื้อผ้าที่เราใส่ในแต่ละวันนั้นอาจเกิดได้รับปนเปื้อนจากของเหลวในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น เลือด, เหงื่อ, คราบอาเจียน รวมไปถึงไวรัสที่อาจติดอยู่บนเนื้อผ้า ซึ่งการที่จะขจัดคราบและฆ่าเชื้อสิ่งสกปรกเหล่านี้ได้คือการซักผ้าด้วยอุณหภูมิอย่างต่ำ 60 องศา

ทั้งนี้การซักที่ถูกต้องเพื่อฆ่าเชื้อโควิดนั้นจะต้องตั้งค่าอุณหภูมิเครื่องซักผ้าดังนี้ครับ

    • ซัก 3 นาที ด้วยความร้อน 75 องศา (160 องศาฟาเรนไฮต์)

    • ซัก 5 นาที ด้วยความร้อน 65 องศา (149 องศาฟาเรนไฮต์)

    • ซัก 20 นาที ด้วยความร้อน 60 องศา (140 องศาฟาเรนไฮต์)

3. ใช้น้ำยาฟอกขาว

การใช้น้ำยาฟอกขาวนอกจากที่มีประโยชน์ในการทำให้ผ้าขาวแล้ว ยังช่วยในการกำจัดไวรัสอีกด้วย ดังนั้นเมื่อใช้นำยาชนิดนี้มันจะทำให้ผ้ามีความสะอาดปราศจากเชื้อโรค แต่ก่อนที่จะใช้คุณจะต้องเช็กด้วยว่าน้ำยาฟอกขาวสามารถใช้กับเครื่องซักผ้าของคุณได้หรือไม่ครับ เพื่อไม่ให้มันส่งผลเสียต่อเครื่องซักผ้า

4. ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกัน

ใช้ผ้าเช็ดตัวร่วมกัน (รวมไปถึงผ้าเช็ดมือด้วย) เป็นสิ่งที่สยองมากกว่าหนังผีอีกครับ เพราะมันทำให้เชื้อสามารถแพร่กระจายได้ง่ายกว่าเดิม ยิ่งถ้าหากคนที่ใช้ร่วมกับผู้มีเชื้อโรคหรือเชื้อโควิด 19 ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ เพราะคุณอาจจะได้รับเชื้อไวรัสโดยไม่รู้ตัว

5. ตากผ้าให้แห้งหลังการซัก

ไวรัสสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมากในพื้นผิวที่มีความชื้น ดังนั้นหลังจากซักผ้าเสร็จแล้วคุณควรใช้โปรแกรมปั่นให้แห้งหรือนำไปเข้าเครื่องอบผ้า รวมไปถึงการตากแดด เพราะความร้อนเหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งวิธีซึ่งช่วยในการฆ่าเชื้อโรคได้


ผลงานทำความสะอาดพรม ผ้าม่าน และโซฟา สภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2564


ทำความสะอาดบ้านต้อนรับความเฮงในวันตรุษจีน

เทศกาลตรุษจีนถือเป็นวันมงคลสำหรับพี่น้องชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนทุกคน เพราะเปรียบได้กับวันขึ้นปีใหม่ อีกทั้งเป็นวันที่ทุกคนเฝ้ารอที่จะได้รวมตัวพบปะสมาชิกในครอบครัวเพื่อแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วและเฉลิมฉลองวันปีใหม่ร่วมกันอย่างสุขสันต์ แต่ก่อนจะถึงวันตรุษจีน ชาวจีนมักจะมีการทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ด้วยเชื่อว่าจะเป็นการปัดเป่าสิ่งอัปมงคลของปีเก่าออกไป และเพื่อเป็นการต้อนรับสิ่งดี ๆ และเปิดทางให้เงินทองไหลมาเทมาในปีใหม่ที่กำลังมาถึงด้วยบ้านที่สะอาด เป็นเรียบร้อยตามหลักฮวงจุ้ย

1 .เก็บกวาดหน้าบ้านต้อนรับพลังงานดี

2. ทำความสะอาดห้องครัวเรียกทรัพย์

3. ทำความสะอาดห้องนอนเสริมความสัมพันธ์ที่ดีของคนในครอบครัว

4. ทำความสะอาดห้องน้ำขจัดพลังงานด้านลบ

5. จัดบ้านสร้างสมดุล

ชาวจีนเชื่อว่าสิ่งของต่าง ๆ ภายในบ้านจะปล่อยพลังงานชี่ ซึ่งเป็นพลังงานที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตออกมา การปล่อยให้ข้าวของวางระเกะระกะอาจส่งผลให้การไหลเวียนของโชคลาภติด ๆ ขัด ๆ ก่อนวันตรุษจีน จึงมักมีการจัดระเบียบข้าวของให้เข้าที่เข้าทางเพื่อสร้างความสมดุล ช่วยเรียกโชคลาภเข้าบ้าน และหากบ้านไหนที่มีกระจก ก็ต้องเช็ดกระจกให้ใส แวววาวเพื่อความมั่งคั่งร่ำรวยตลอดปี


ม่านโปร่ง (2)

ม่านโปร่งเป็นผ้าที่บอบบางอาจกรอบและเสื่อมตามอายุการใช้งาน MEcleanD จึงขอแนะนำให้ถอดซักด้วยมือพร้อมน้ำยาสูตรเฉพาะสำหรับซักม่าน เพื่อเป็นการถนอมเนื้อผ้าให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นค่ะ


บริการซักเครื่องนอน

บริการซักผ้าม่าน, โซฟา, พรม

#MEcleanD #ซักม่านถึงบ้านคุณ

#บริการด้วยใจ #homeservice #ซักผ้าม่าน



ซัก ขัด รีด

ซัก...ขัด...รีด...ขั้นตอนการซักม่านแบบไม่ถอดแบบฉบับของ MEcleanD

ซัก...ม่านแบบไม่ต้องถอดโดยใช้เครื่องมือทันสมัยปลอดภัยต่อม่านของคุณ

ขัด...เจอคราบฝังแน่นเราต้องขจัดให้ออก

รีด...ม่านสวยได้ต้องเรียบและเงางาม


#MEcleanD #ซักม่านถึงบ้านคุณ

#บริการด้วยใจ #homeservice #ซักผ้าม่าน


โซฟา สกปรกขนาดไหน MEcleanD ก็เอาอยู่ !!!

รูปภาพจากหน้างานจิง!! ที่ลูกค้าเรียกใช้บริการซักโซฟาปลอดเชื้อและกลับมาสวยอีกครั้งด้วย MEcleanD



ม่านโปร่ง

ม่านโปร่งที่มีอายุการใช้งานเกิน3ปีอาจเกิดความเสื่อมของตัวผ้าทางเราก็ทำความสะอาด​โดยใช้การซักมือทีละผืนด้วยครีมพิเศษ​สำหรับซักม่านโดยเฉพาะและนัดหมายมาติดตั้งคืน​ให้อีกครั้ง... ติดตั้งคืนเรียบร้อย... ขอบคุณ​ที่มาอุดหนุน​ MEcleanDค่ะ​



เคล็ดลับการทำความสะอาดมู่ลี่

ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำอุ่นในสัดส่วนที่เท่ากันในชาม

ใช้ถุงเท้าที่ไม่ได้ใส่แล้วจุ่มน้ำยาในชามแล้วถูบริเวณมู่ลี่

แค่นี้ก็สะอาดเรียบร้อย

#MEcleanD #ซักม่านถึงบ้านคุณ

#บริการด้วยใจ #homeservice #ซักผ้าม่าน #ซักผ้าม่านแบบไม่ต้องถอด #ซัก พรม#ซักโซฟา#ซักที่นอน#ซักผ้าม่านด่วน


ซักโซฟากับ MEcleanD แพงมั้ยนะ???

โดยปกติแล้วเราจะซักโซฟาปีละครั้ง หรือ 6 เดือนครั้ง ถ้าคำนวณค่าซักต่อเดือนถือว่าถูกมากๆเลยนะคะ

ร้าน​MEcleanD โทร 0804969918

บริการซักเครื่องนอน

บริการซักผ้าม่าน, โซฟา, พรม

#MEcleanD #ซักม่านถึงบ้านคุณ

#บริการด้วยใจ #homeservice #ซักผ้าม่าน #ซักผ้าม่านแบบไม่ต้องถอด #ซักพรม#ซักโซฟา#ซักที่นอน#ซักผ้าม่านด่วน



ทำความสะอาดผ้าม่าน


1. รู้หรือไม่? เพียงคุณขยันเช็ดฝุ่นด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ช่วยลดการเกิดไรฝุ่นได้เป็นอย่างดี แต่อย่าลืมสิว่าคุณจะขยันได้สักแค่ไหนเพราะไรฝุ่นเองก็แฝงตัวอยู่ในอากาศที่ลอยอยู่รอบๆตัวคุณ

2. อย่าปล่อยให้บ้านคุณรกเป็นอันขาด คุณคงเห็นในละครบ้านรกร้างบ้านผีสิงที่ไม่มีคนอยู่ฝุ่นหนาเป็นเมตร นั่นแหละตัวการสำคัญเพราะฝุ่นเพียง 1 กรัมก็สามารถพบไร้ฝุ่นได้ถึง500ตัวเลยทีเดียว หากรู้แบบนี้ก็จงอย่ารอช้ารีบย้ายของรกออกจากห้องนอนและอย่าให้มีมุมเก็บฝุ่นในบ้านอีกเลยค่ะ

3. อะไรที่ซักได้ให้ทำทุก 2 สัปดาห์ผ้าปูที่นอน, ปลอกหมอน หรือ ผ้าห่มสุดโปรด เพราะหมอนที่ไม่ได้รับการซัก 1ใบน้ำหนัก1ใน 10ของมันมาจากไรฝุ่นและมูลของไรฝุ่น หรือแม้แต่ฟูกที่นอน1หลังก็มีไรฝุ่นอาศัยอยู่ประมาณ2ล้านตัวเลยทีเดียว

เป็นอย่างไรบ้างคะกับเกร็ดความรู้ดีๆ จาก MEcleanD เห็นแบบนี้แล้วก็ควรหาเวลาวันหยุดลงมือทำความสะอาดเพื่อป้องกันและกำจัดไรฝุ่นตามความชอบใจได้เลยนะคะ


อ้างอิงข้อมูลจากคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล (รศ.วรรณะ มหากิตติคุณ)




ห้องนอนลูกสุดที่รักที่คุณไม่ควรมองข้ามความสะอาดเพราะฝุ่นและเชื้อโรคอาจแฝงในผ้าม่านสุดสวยในห้องนอนของลูกคุณก็ได้ เรียกใช้บริการ​MEcleanD home service ซักม่านเพียงปีละครั้งก็ห่างไกลโรคทางเดินหายใจไปอีกหลายสเต็ป ขอบคุณลูกค้าที่เลือกใช้บริการจากเราค่ะ

บริการซักเครื่องนอน

บริการซักผ้าม่าน, โซฟา, พรม

#MEcleanD #ซักม่านถึงบ้านคุณ

#บริการด้วยใจ #homeservice #ซักผ้าม่าน